สรุปข้อมูล iPhone 11
- มีทั้งหมด 6 สีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีม่วง และ Product RED
- ดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียม
- ชิปประมวลผล A13 Bionic
- แบตอยู่ได้นานกว่า iPhone XR
- สแกนใบหน้าได้เร็วกว่าด้วยระบบ Face ID ใหม่
- รองรับ Wi-Fi 6
- กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้อง Wide และ Ultra-wide
- มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน
- ซูมได้ 2x แบบ Optical zoom
- ใหม่ Portrait lighting สำหรับถ่ายบุคคลแบบ monochrome
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล อัพเกรดจากเดิมที่เป็นกล้อง 7 ล้านพิกเซล
- รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีโหมด Slow-motion สำหรับถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าด้วย
- iPhone 11 มีการป้องกันอยู่ที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- ราคาเริ่มต้น $699 (ประมาณ 21,400 บาท)
สรุปข้อมูล iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
- มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอ ได้แก่ 5.8 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว OLED
- ดีไซน์แบบกระจกผิวด้านและสแตนเลสสตีล
- หน้าจอ Super Retina XDR รองรับการแสดงผล HDR 10 และ Dolby Vision พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- สแกนใบหน้าได้เร็วกว่าด้วยระบบ Face ID ใหม่
- รองรับ Wi-Fi 6
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้อง Wide, Telephoto และ Ultra-wide
- กล้องหลังซูมได้ 4x แบบ Optical zoom
- ใหม่ Portrait lighting สำหรับถ่ายบุคคลแบบ monochrome
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล อัพเกรดจากเดิมที่เป็นกล้อง 7 ล้านพิกเซล
- รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีโหมด Slow-motion สำหรับถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าด้วย
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่ารุ่น iPhone 11
- รองรับชาร์จเร็ว
- iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max มีการป้องกันอยู่ที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Midnight Green, Space Grey, Silver และ Gold
iPhone 11 Pro เริ่มต้น $999 (ประมาณ 30,600 บาท) และ iPhone 11 Pro Max เริ่มต้น $1,099 (ประมาณ 33,700 บาท)
สำหรับราคาในไทย อดใจรอกันอีกนิดนะครับ หากมีการอัพเดทจาก Apple จะมาแจ้งให้ทราบต่อไป
ที่มา :iphone-droid.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงกันบ้างครับ : แสดงความเห็นให้เพื่อน ๆ รับรู้หน่อย