เปิดตัวแล้ว iOS 10 อัพเดทใหม่เกือบหมด เน้นการใช้งานที่สะดวกกว่าเดิม
วันนี้ในงาน WWDC หลังจากที่ Apple ได้ เปิดตัว macOS รุ่นใหม่ ไปแล้ว ก็มาถึงคิวของ iOS เวอร์ชั่นใหม่คือ iOS 10 ซึ่งในครั้งนี้ Apple ได้เน้นฟีเจอร์ในด้านการออกแบบที่เน้นความง่าย และปรับปรุงการใช้งานโดยรวม โดยมีฟีเจอร์หลัก ๆ ดังนี้
หน้า Lock Screen แบบใหม่
มีการปรับปรุงการออกแบบหน้า Lock Screen ครั้งใหญ่ โดยเน้นการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น มีการออกแบบในส่วนของการแจ้งเตือน, แผงควบคุม (Control Center), ศูนย์การแจ้งเตือน (Notification Center) ใหม่ทั้งหมด เน้นการใช้งานที่ราบรื่นมากขึ้นและตอนนี้ เมื่อเรายก iPhone ขึ้นมาหน้าจอจะสว่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องกดปุ่ม sleep/wake อีกแล้ว คล้ายกับ Apple Watch
เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง Siri
หลังจากข่าวลือว่า Apple จะเปิด Siri SDK ให้กับนักพัฒนานำไปใช้ เชื่อมต่อกับแอพของตัวเอง ทำให้สามารถสั่งการแอพได้จาก Siri โดยตรง เช่นสามารถส่ง LINE หรือเรียก Uber โดยใช้ Siri ได้เลย ซึ่งในตอนนี้ข่าวลือดังกล่าวก็เป็นจริงแล้ว ตอนนี้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อ Siri เข้ากับแอพของตัวเองได้นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการใช้งาน Siri ให้ราบรื่นยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่นการใช้งานร่วมกับ Apple Carplay เป็นต้น
ระบบเดาคำที่ฉลาดยิ่งขึ้น
Apple ได้มีการปรับปรุงการทำงานของระบบเดาคำให้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยจะมีการดูสภาพแวดล้อมและคาดเดาการพิมพ์ตอบให้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนภาษาเองได้เมื่อกำลังพูดคุยกับผู้ใช้งานอีกฝั่ง หนึ่งที่อาจจะพูดคนละภาษา (เช่น สลับจากภาษาไทยเป็นอังกฤษ)นอกจากการเดาคำแล้ว ยังสามารถกดเพื่อใส่ Location หรือข้อมูลติดต่ออัตโนมัติได้ โดยดูจากการพูดคุยของฝ่ายตรงข้าม แล้ว iOS 10 จะไปนำข้อมูลต่าง ๆ มาแสดงเพื่อเป็นการแนะนำการตอบ
การจัดการรูปภาพอัจฉริยะ
มีการเพิ่มการทำงานของการวิเคราะห์รูปภาพเพื่อนำมาแสดงในการค้นหา ทั้งโดย Spotlight และ Siri แล้วก็ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือจะมีการรวบรวมรูปภาพ ที่น่าจะมีคุณค่าในทางจิตใจมาเตือนความทรงจำApple ยังได้ปรับปรุงระบบการจดจำใบหน้าให้แม่นยำมากขึ้น และนำมาใช้ร่วมกับการแสดงความทรงจำ และการค้นหาต่าง ๆ
แผนที่ปรับปรุงใหม่
มีการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งานหลายส่วนใหม่ การค้นหาที่ฉลาดกว่าเดิม และมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ CarPlay ทำให้สามารถใช้งานในรถยนต์ได้อย่างราบรื่นย่ิงขึ้นยังมีการเพิ่มการทำงานแบบ Proactive ซึ่งจะเป็นการคาดเดากิจกรรมต่าง ๆ ที่เราทำแล้วนำมาเป็นการนำเสนอเส้นทางหรือแจ้งเตือนการเดินทางต่าง ๆ เช่น การจราจร, ทิศทาง เป็นต้น
Apple Music ออกแบบใหม่หมด
มีการออกแบบ Apple Music แบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดยเน้นการออกแบบที่ให้ความสำคัญไปที่เสียงเพลง นอกจากการปรับปรุงการออกแบบแล้ว ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาเช่น มีเนื้อเพลงให้สามารถดูในแอพได้เลยApple Music มีเสียงตอบรับว่าเป็นหนึ่งในแอพที่ดูใช้งานยาก การปรับปรุงครั้งนึ้จึงเน้นไปที่ความง่ายในการใช้งานนนั่นเอง
News ที่แจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว
แอพอ่านข่าวจาก Apple ถูกปรับปรุงให้สามารถปรับให้มีความน่าสนใจมากขึ้น มีการเพิ่มระบบสมัครรับข่าวสารข้อมูล จากแหล่งข่าวสำคัญ ๆ ทำให้เราสามารถรับข่าวสารได้ทางการแจ้งเตือน และข่าวด่วนต่าง ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในแอพจะมีการส่งการแจ้งเตือนที่เราน่าจะสนใจ ขึ้นมาขึ้นบนหน้าจอ lockscreen ให้สามารถกดเข้าไปอ่านได้เลย
HomeKit พร้อมแอพใหม่ชื่อ Home
ระบบจัดการบ้านอัจฉริยะของ Apple มาพร้อมกับแอพใหม่ที่ชื่อว่า Home ซึ่งเป็นแอพแยกมาและมีเมนูให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านได้เลยApple ยังเน้นย้ำด้านความปลอดภัยโดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อไม่ให้มีการกระทำการใด ๆ ที่เป็นอันตรายผ่านทาง HomeKit
Phone รวมทุกสายไว้ที่แอพเดียว
มีการปรับปรุงแอพ โทรศัพท์ให้สามารถรับโทรศัพท์ได้จากทุกแอพ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Skype, Messenger หรือแอพอื่น ๆ ที่นักพัฒนาใช้งาน API ที่ชื่อ Voice API ที่จะโอนสายจาก App มาที่ Phone อัตโนมัติยังมีการปรับปรุงการใช้งาน Voice Mail ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะในบางประเทศเริ่มมีการสแปมผ่าน voice mail โดยตอนนี้ iOS จะสามารถแจ้งเตือนได้ว่า Voice Mail ดังกล่าวเป็นสแปมหรือเปล่า แล้วยังมีระบบแปลง voice mail มาอยู่ในรูปตัวอักษรให้เราอ่านก่อนได้
iMessage ยกเครื่องใหม่หมด
เป็นสุดยอดแห่งความเปลี่ยนแปลง เมื่อ Apple พยายามยกระดับ iMessage ให้เป็น App มาสู่กับ Facebook Messenger, Telegram หรือแอพแชทอื่น ๆ โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การส่ง Sticker, Animation ต่าง ๆ ของกล่องข้อความ emoji ที่ใหญ่กว่าเดิมถึงสามเท่า (ฮา)ยังมีลูกเล่นต่าง ๆ อีกมากมายที่เป็นการสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานในบทสนทนาเช่น ข้อความลับ ข้อความที่สร้างความตื่นเต้น หรือแม้กระทั่งการเขียนด้วยลายมือ
ฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกเยอะที่ไม่ได้นำขึ้นมาโชว์แต่มีการกล่าวถึง เช่น- การใช้งาน Notes แบบหลายคนพร้อมกัน
- สามารถแก้ไข ตัดแต่ง Live Photos ได้แล้ว
- สามารถดูเว็บบน iPad ได้ 2 หน้าต่างพร้อมกัน
- การเรียงอีเมลให้เป็นบทสนทนาในแอพ Mail
- API และ SDK สำหรับนักพัฒนา
อัพเดทได้เมื่อไหร่
iOS 10 จะเปิดให้คนทั่วไปสามารถ Update ได้ในฤดูใบไม้ร่วง (ปลายปีนี้) และแน่นอนว่าจะมีการจัดโครงการ Beta ให้กับผู้สนใจทดลองใช้ ผู้สนใจสามารถเข้าลงชื่อได้ที่ Apple Beta Software ProgramiOS 10 จะสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ดังนี้
iPad 4th gen, iPad Air, iPad Air 2, iPad Pro, iPad mini 2, iPad mini 3, iPad mini 4, iPod touch 6th gen
iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPhone SE, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus
[เพิ่มเติม] มีรายงานมาว่า iOS 10 อนุญาตให้ผู้ใช้ปิดการทำงานของแอพติดเครื่องได้แล้วเช่นกัน (ข่าว)
รูปภาพจาก – Apple Live
ที่มาบทความ - macthai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงกันบ้างครับ : แสดงความเห็นให้เพื่อน ๆ รับรู้หน่อย